susเรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน เผาหุ่น 2 November 15, 2015 • admin จิปาถะ เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน เผาหุ่น 2 3 “กมฺมุนา วตฺตติโลโก แปลว่า สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม” ถากถาง พูดตามอาจารย์ “ดี ถากถาง ท่องไว้ให้ขึ้นใจ” “ครับอาจารย์” “ผมอยากจะเปรียบปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คือร่างกายของเรา ในปี 2531 นั้น ร่างกายของเราติดเชื้อ คือ “เชื้อบ้าอำนาจและหลงตัวเอง” เชื้อระยำตัวนี้ระบาดมาจากที่อื่น มีความรุนแรงทำให้ร่างกายของเราได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก แต่เนื่องจากร่างกายของเรายังแข็งแรง มีภูมิคุ้นกันดี จึงสามารถขจัดโรคร้ายนั้นให้สงบราบคาบลงไปได้” 4 “ส่วนในปีนี้ 2558” ผมว่าต่อ” โรคเก่า คือ โรคบ้าอำนาจและหลงตัวเองได้ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จากกากเดนเก่า แถมมีความรุนแรงมากกว่าเดิม เพราะได้พ่วงเอาโรคเย่อหยิ่งจองหองพองขน เอาแต่ใจตัวเอง นึกอยากทำอะไรก็จะทำในฐานะเป็นมือเป็นเท้าของโรค เป็นเหตุให้ร่างกายของเราซึ่งขณะนี้อ่อนแอมาก เพราะขาดภูมิคุ้มกัน เลยดูเหมือนว่าจะง่อยเปลี้ยเสียขา ทำท่าจะตายเอาดื้อๆ หมดปัญญาไม่รู้จะรักษาได้อย่างไร จึงอยู่กันไปวันๆเหมือนรอความตาย ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรม” 5 “หมายความว่าอย่างไรครับ” “หมายความว่าทุกคนตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง พยายามเอาตัวรอดไปวันๆ เพราะนางแต้มจะใช้ทุกวิถีทางกำจัดฝ่ายตรงข้าม ไม่มีใครกล้าจริงๆ นอกจากภัยมาถึงตัวเท่านั้น จึงจะฮึดสู้” “ครับ เข้าใจแล้วครับ” “เออนี่ ! ถากถาง ตอนนี้บรรยากาศของที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ” “ตอบไม่ถูกครับ ดูสะลึมสะลือชอบกล เอาที่เขาแสดงความคิดเห็นไว้ใน จิปาถะ เรื่องสั้นหัวใจเปื้อนชอลก์ ตอน ความมืดบอด นะครับ มี 2-3 ช็อต” “ได้ ลองอ่านให้ฟังซิ ถากถาง” “ได้ครับ” 6 คนหนึ่งว่า : “เขาเรียกที่แห่งนั้นว่าเป็น”แดนสนธยา” อีกคนหนึ่งว่า : “สิ่ง ที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น!!!! เรื่องราวของ ความอยากได้ อยากเป็น ดัง ดี เด่น!!ยังไม่จบง่ายๆ…ยังมีหมูอีกหลายตัว รอขึ้นเขียง!!!!สนุกกับอำนาจและความบ้าอำนาจ….อย่างที่เราเคยได้ยินกันคือ บ้าหมู!!หรือ บ้าหมู่!!!นั่นแหละ?!?” และคนเดียวกันนี้ว่า : “หมู พิการบางตัวไม่ได้มีความสามารถอะไรพิเศษ นอกจากได้ซากกากเดนบัลลังก์ที่เกิดจากข้อตกลงอันมีเลศนัย ระหว่างชนชั้นที่ใช้อำนาจต่อรองซึ่งเรียกว่า ขั้วใหม่-ขั้วเก่าซึ่งรวมๆน่าจะเรียกว่า ขั้วระยำ. ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เหล่าบริวาร หมู หมา กาไก่ และเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ได้มีที่ยืนพ่นพิษให้กับชาวบ้านที่ตั้งใจทำงาน…ซึ่งต่อมาไม่นานเหล่า บริวารเหล่านี้ก็เริ่มคายสันดาน กัดกันเอง ขี่กันเอง ฟาดกันเอง เพราะไม่มีใครอิ่มเอมกับข้อเสนอเหล่านี้…เพราะทุกคนต้องการเป็นใหญ่ต้อง การได้อำนาจ จึงไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักรอและไม่รู้จักหยุด!!!!ในที่สุด คนเหล่านี้ก็ได้ดิบได้ดีเชิดหน้าเชิดตาวงศ์ตระกูล…สมกับที่พ่อแม่ที่เคย เป็นบริวารได้นำมาฝากฝังไว้. นัยนัยว่า ลูกกูเก่งนะ?!?….ใช่!!!!ลูกมึงเก่ง!!!’เก่งจริงๆ!!!!เก่งเหมือนมึงเลย!!!!” “ฟังแล้วน่าเป็นห่วงนะครับ สู้คนเดียว” “ไม่ใช่ ถากถาง เขามีผมที่ยื่นอยู่เคียงข้างเสมอ” ……….
Comments are closed.