วันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2565
จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (ปริศนา)
9
คนเรานั้น เมื่อเดือดเนื้อร้อนใจ ตกอยู่ในสภาพที่เป็นทุกข์ หรือกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถอยู่รอดให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะการเอาตัวรอดเป็นสัญชาตญาณ ของมนุษยชาติ
ประสบการณ์นี้ขอบอกอย่างไม่อายว่า ตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนั้น ผมทำทุกอย่าง เริ่มจากต้องออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้น จึงจะสามารถใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ทำเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมและความเมตตาไปทุกที่ พบผู้คนมากมายตั้งแต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร รัฐมนตรีศึกษา อธิบดีกรมศิลป์ อัยการสูงสุด เพื่อหวังให้ท่านช่วย แม้แต่เทพยดาฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ต้องไปขอความเมตตาช่วยเหลือ ไปกราบพระและลดน้ำพระพุทธมนต์ทุกวัด ที่สามารถไปได้ ถวายสังฆทานทั้งคนเป็นคนตาย วัดเล่งเน่ยยี่หรือวัดมังกรกมลาวาส ก็ไป มูลนิธิปอเต็กตึ้งก็ไป บริจาคโลงและผ้าห่อศพก็ทำ ปล่อยนกปล่อยปลาก็ทำ ทำพิธีขอขมาโทษสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก็ทำ จนเพื่อนบอกว่า “ทำเรื่องไร้สาระ” ผมตอบในใจว่า “ถ้ามึงถูกจับอย่างกู สิ่งที่ทำนี่แหละเป็นสาระอย่างยิ่ง เพราะอย่างน้อยก็ทำให้สบายใจ”
วันนี้ขอเป็นคนแก่(ความจริงไม่ต้องขอเพราะแก่อยู่แล้ว)ที่ชอบพูดเรื่องตัวเองมายาวเหยียด ก็เพื่อจะบอกว่าทั้งผู้ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ราชการอยู่, ผู้ที่เกษียณและถูกปลดออกจากราชการไปแล้ว และถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัย ขอให้ รักษาสุขภาพให้ดี สติปัญญาจะช่วยแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ ทำอย่างไรล่ะ?
มาฟังปริศนาของ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล ดีกว่าครับ “สงสัยต้องรอฟ้าผ่า ลงมาพอดีกลางกระหม่อม จึงจะหยุดเรื่องเหล่านี้ได้ ใครจะกล้าฟ้องกับฟ้า บ้างหนอ รอดูนะ”
…